วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | ว่าง | |
---|---|---|---|---|---|
29 ธ.ค. 67 - 04 ม.ค. 68 | 89,888 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | 1 | จอง |
20.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 ผู้โดยสารขาออก เพื่อพบไกด์และรับเอกสาร และโหลดกระเป๋าเคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (THAI AIRWAYS) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอานวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.45 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวบินที่ TG670 (บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)
08.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากร เรียบร้อยแล้ว แล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับหลังผ่านขั้นตอนการเข้าประเทศแล้วอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโนะโบะริเบะสึ (Noboribetsu) เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องเมืองน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด และน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำตินั้นก็ถูกจัดว่ำดีที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ทำงใต้ของเกำะฮอกไกโด อยู่ระหว่ำงเมืองซัปโปโรและเมืองฮำโกะดำเตะ นำท่านสู่ หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ (Noboribetsu Date Jidaimura) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นหมู่บ้านที่จำลองวิถีชีวิตของชาวเอโดะในสมัยโบราณ ภายในหมู่บ้าน รายเรียงไปด้วยร้านค้า บ้านซามูไร บ้านนินจา หอสังเกตการณ์ โรงละคร วัด และอื่นๆ อีกมากมาย ท่านสามารถสัมผัสบรรยากาศที่เสมือนอยู่ในยุคญี่ปุ่นโบราณ และยังสามารถเช่าชุดกิโมโนจากร้านค้าหน้าหมู่บ้านเพื่อมาถ่ายรูปให้เข้ากับบรรยากาศภายในหมู่บ้าน ซึ่งภายในหมู่บ้านก็จะมีคนแต่งตัวเป็นพ่อค้า ซามูไร หรือ นินจา เดินไปมา และยังมีการแสดงต่างๆ ให้ชมอีกด้วย
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
จากนั้นนำท่านสู่ หุบเขานรกจิโกกุดานิ Jigokudani หรือ Hell Valley (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นหุบเขาที่งดงาม น้ำร้อนในลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถันซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเอง เส้นทางตามหุบเขาสามารถเดินไต่ขึ้นเนินไปเรื่อยๆประมาณ 20 -30 นาทีจะพบกับบ่อโอยุนุมะ (Oyunuma) เป็นบ่อน้ำร้อนกำมะถัน อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ถัดไปเรื่อยๆก็จะเป็นบ่อเล็กๆ บางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่า และยังมีบ่อโคลนอีกด้วย น้ำที่ไหลออกจากบ่อโอยุนุมะ เป็นลำธารเรียกว่า โอยุนุมะกาว่า (Oyunumagawa) สามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่เท้าพร้อมชมทิวทัศน์ที่งดงามนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต
ได้เวลาอันสมควรท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโทยะ(Toya Lake) (ใช้เวลำเดินทำงประมำณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองโทยะ เเละเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เเละเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยมันเป็นทะเลสาบรูปวงกลมที่มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร โดยเกิดจากการเป็นปากปล่องภูเขาไฟดั้งเดิม เเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบชิโกสึมากนัก ทำให้กลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างมากอีกเเห่งของเมืองโทยะ เเละฮอกไกโด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (2) --- บุฟเฟต์นานาชาติ
หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
ที่พัก TOYA SUN PALACE RESORT & SPA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
หลังจากนั้นนำท่านเข้าชม สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) (ไม่รวมค่าขึ้นกระเช้า) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้าตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้าตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้ายโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว หากใครต้องการใกล้ชิดกว่านี้ก็สามารถเข้าไปยังห้องสังเกตการณ์พิเศษ กรงมนุษย์ ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้าตาลเดินผ่านไปมา และได้ยินเสียงและกลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ นอกจากนี้ยังยังขายขนมปัง และแอปเปิ้ล ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารหมีอีกด้วย
เดินทางสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
เดินชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) หรือ โอตารุอุนงะ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
เข้าชม พิพิทธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music Box Museum) พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็น หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงามและถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง ไฮไลท์!!! หน้าอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี มี นาฬิกาไอน้ำ (Steam Clock) ปัจจุบันมีเพียง 2 เรือนในโลกคือที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา กับที่เมืองโอตารุแห่งนี้ นาฬิกาจะเล่นเพลงและปล่อยไอน้ำออกมาทุกๆ 15 นาที ถือเป็นจุดแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดที่มาโอตารุแล้วไม่ควรพลาด นอกจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น ยังมีร้านขนมและร้านขายสินค้าที่ระลึกอีกมากมาย เช่น ร้านขนม LeTAO ที่ภายในนอกจากจะจำหน่ายขนมแล้วยังเป็นร้านกาแฟ ที่หากท่านเดินช้อปปิ้งมาเหนื่อยๆ สามารถแวะมาพักผ่อนจิบเครื่องดื่ม พร้อมชิมขนมหวาน ณ ร้านนี้ได้ ร้าน Rokkatei โกดัง โรงงานผลิตขนมของฮอกไกโด ด้านในมีจำหน่ายขนมนมเนย รวมไปถึง กาแฟ และของฝากของขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ อีกทั้งสามารถซื้อสินค้าแบบ Tax Free ได้ด้วย และข้างๆกันยังมี ร้าน Kitakaro โกดังผลิตขนมอีกรายหนึ่ง ร้านนี้เน้นในส่วนของขนมสด อาทิ ซอฟท์ครีม เค้กต้นไม้ และขนมอบต่างๆ เป็นต้น อิสระให้ท่านเดินเล่น ถนนซาไกมาจิตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางกลับ เมืองซัปโปโร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
อิสระช้อปปิ้ง ย่านซูซูกิโนะ(Susukino) นับเป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงที่โด่งดังมากที่สุดของเมืองซัปโปโร(Sapporo) อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของญี่ปุ่นทีเดียวล่ะค่ะ บอกเลยว่าอยากมาบันเทิงเริงใจยามค่ำคืนสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบคนญี่ปุ่นแท้ๆต้องมาที่นี่ให้ได้เลยล่ะค่ะ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ และตู้ปาจิงโกะ รวมกว่า 4,000 ร้าน บางร้านนี่เปิดจนถึงเที่ยงเที่ยงคืน
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก SAPPORO TOKYU REI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
อิสระช้อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง ยาบำรังกำลัง วิตามิน น้ำหอม ต่างๆ และสินค้าของฝากญี่ปุ่นต่างๆอีกมากมาย ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านสู่ ผ่านชม ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (Former Hokkaido Government Office) เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ ผ่านชม หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร (Sapporo Clock Tower หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sapporo Tokeidai) เป็นหอนาฬิกาโบราณมีลักษณะเป็นอาคารไม้ที่มีหลังคาสีแดงและผนังสีขาวถูกออกแบบและบริจาคให้โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1878 เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร สำหรับตัวนาฬิกาถูกติดตั้งในปี ค.ศ. 1881 จากบริษัท E. Howard & Co. เมือง Boston และในปี ค.ศ. 1970 หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติ อีกด้วย
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า (Asahikawa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของจังหวัดฮอกไกโด รองจากเมืองซัปโปโร เป็นเมืองศูนย์กลางทางตอนเหนือของเกาะ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาไดเซ็ตสึซันและแม่น้ำน้อยใหญ่ มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่หลายแห่ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (6)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองโซอุนเคียว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
นำท่าน นั่งกระเช้าสู่ ภูเขาคูโรดาเกะ (Mount Kurodake) **ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ** ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) นับเป็นจุดยอดนิยมในการเริ่มต้นเข้าชมอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ มาสัมผัสทัศนียภาพและอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่ปกคลุมทั่วภูเขา โดยจะมีกระเช้าลอยฟ้าเชื่อมต่อยอดเขากับ Sounkyo Onsen บริเวณจุดชมวิวที่ 5 สามารถชมวิวทิวทัศน์จากบริเวณสถานีด้านบนมีดาดฟ้าชมวิวหุบเขาที่อยู่เบื้องล่างได้อีกด้วย
ที่พัก SOUNKYO KANKOU HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องของโรงแรม (7)
หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ (ออนเซน) เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านสู่ น้ำตกกิงกะและน้ำตกริวเซอิ (Ginga and Ryusei Waterfall) ตั้งอยู่ในอุทยาน แห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park) เขตโซอุนเคียว (Sounkyo)โดยน้ำตกกิงกะมีขนาดความสูง 120 เมตร ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตกแม่น้ำสีเงิน เพราะน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผานั้นมีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ ไขว้กันไปมาดูคล้ายกับเส้นด้ายสีเงิน ส่วนน้ำริวเซอิที่อยู่ถัดไป มีขนาดความสูง 90 เมตร หรือมีอีกชื่อว่าน้ำตกดาวตก เนื่องจากน้ำตกที่ไหลออกมาจากชะง่อนผานั้นเมื่อต้องกับแสงอาทิตย์ ดูงดงามคล้ายกับดวงดาวที่กำลังตกมาจากฟากฟ้า นอกจากนี้น้ำตกทั้งสองยังได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกคู่สามีภรรยาอีกด้วย
เดินทางกลับสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า (ASAHIKAWA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
นำท่านสู่ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงในแถบรอบนอกของเมืองอาซาฮิกาวะ กลางเกาะฮอกไกโด ซึ่งทางสวนสัตว์อนุญาตให้ผู้เข้าชม ได้เข้าชมสัตว์นานาชนิดจากหลากหลายมุมมอง เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนสวนสัตว์แห่งอื่นๆ ไฮไลท์!!! ได้แก่ อุโมงค์แก้วผ่านสระว่ายน้ำของเหล่าเพนกวินและโดมแก้วขนาดเล็กที่อยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ผู้เข้าชมจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน สวนสัตว์แห่งนี้ยังเป็นสวนสัตว์แห่งแรกที่มีการจัดให้เพนกวินออกเดินในช่วงฤดูหนาว ท่านจะได้ชม “ขบวนพาเหรดเพนกวิน” แบบใกล้ชิด (**หมายเหตุ เนื่องจากขบวนพาเหรดเพนกวินมีเป็นรอบ สงวนสิทธิ์หากท่านไปไม่ตรงช่วงเวลาที่มีขบวนพาเหรด ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความน่ารักของสัตว์ชนิดอื่นๆ ทดแทน)
จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ที่ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือน !!ไฮไลท์ หมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว!! และยังมีห้องเล็กๆที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาขอหมู่บ้านแห่งนี้ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้มาศึกษาอีกด้วย ทุกๆ ร้านจะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้านตนเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น ร้าน Asahikawa Ramen Aoba ที่แสนภาคภูมิใจในความเป็นราเมนเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในอาซาฮิคาว่า หรือจะเป็นร้าน Ramen Shop Tenkin ที่เชื่อมั่นในน้ำซุปของตัวเองว่าเป็นหนึ่งไม่แพ้ใครที่สำคัญ ราเมง ถือเป็นอาหารเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่น เพราะด้วยความที่กินง่ายและมีรสชาติที่หลากหลายจึงเป็นที่ถูกใจของคนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
บ่าย อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมน (9) -- CASH BACK 2,000 YEN
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบิเอะ (Biei) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง) เมืองเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ และในฤดูหนาวทัศนียภาพก็จะแตกต่างไป โดยจะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนสลับกับต้นสนที่ยืนต้นแต่ไร้ใบ ให้บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบนึง แต่หากมาในช่วงตุลาคม ก็จะได้พบช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่อวดสีสันให้ชมกันตามแหล่งเขาอีกด้วย
นำท่านสู่ น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำตกหนวดขาวแห่งเมืองบิเอะ 1 ใน 5 ของน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮอกไกโดเป็นสถานที่ท้องเที่ยวที่นิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวอย่างมาก ไฮไลท์ของที่นี่ก็จะเป็นน้ำที่ไหลลงมานั้นเป็นน้ำบาดาลที่ออกมาจากรอยแตกของหน้าผาไหลลงสู่แม่น้ำบิเอะ นอกจากนั้นยังมีมีความโดดเด่นของสีของแม่น้ำที่เป็นสีฟ้าอมเขียว เกิดขึ้นจากแร่โคบอลต์
จากนั้นนำท่านชม สระอะโออิเคะ(Aoiike) หรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อนึงว่า “สระน้ำสีฟ้า(Blue Pond)” ห่างจากเทือกเขา Tokachi ประมาณ 2.5 กิโลเมตร นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายสงบส่วนมากคนที่จะมาเที่ยวก็จะเป็นคนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ สาเหตุที่มีชื่อว่า สระอะโออิเคะ(Aoiike) หรือสระน้ำสีฟ้า(Blue Pond)นั้นก็เพราะว่ามีการตั้งชื่อตามสีของน้ำที่เกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาตินั่นเองโดยน้ำในส่วนนี้เพิ่งเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนภูเขาไฟTokachi ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1988 ที่ได้ไหลทะลักเข้าสู่เมืองนั่นเอง
เดินทางกลับสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า (ASAHIKAWA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (10)
ที่พัก HOTEL CRESCENT ASAHIKAWA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุราโน่ (Furano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
นำท่านสู่ ลานสโนว์ เวิลด์ชิคิไซพาโนราม่า (Shikisai no oka) เนินที่ราบกว้างใหญ่ที่มีโรลคุงและโรลจัง เป็นหุ่นฟางขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของลานแห่งนี้ ท่านสามารถสนุกสนานกับลานกิจกรรมที่มีบริการอยู่ที่นี่ ทั้งแบบ Snow Raft เรือยางขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งเป็นกลุ่ม หรือเดี่ยว ไหลลงจากเนินตามเนินเขาที่กำหนด และยังมี Banana Boat ที่ลากด้วยสโนวโมบิวที่ลากซิกแซกตามสันเนินสร้างความสนุกสนานตื่นเต้นได้มากเลยทีเดียว และ Sled สำหรับพาหนะส่วนตัว ที่ไหล่ลงจากเนินสูง (**หมายเหตุ ราคาไม่รวมค่าเล่นกิจกรรมต่างๆ ค่าเช่าชุดและอุปกรณ์ กรณีลานสโนว์ เวิลด์ปิด บริษัทสงวนสิทธิ์ นำลูกค้าไปลานสโนว์ เวิลด์อื่นแทนได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (12)
เดินทางสู่ หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (NINGLE TERRACE) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน (บ้าน 15 หลัง) ที่จำหน่ายสินค้าแบบออรินัลของท้องถิ่น โดยมีร้านกาแฟ Chu Chu no Ie ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านซึ่งอยู่ท่ามกลางป่า คล้ายบ้านในเทพนิยาย หน้าหนาวเช่นนี้ก็จะได้บรรยากาศหิมะแบบขาวโพลน แต่ในฤดูร้อนก็จะได้บรรยากาศของป่าสนเขียวขจีกับบ้านไม้ในป่าสน อิสระตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองซัปโปโร (SAPPORO) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น ณ ถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) เป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองซัปโปโร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย ร้านดองกิ ร้าน 100 เยน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่ และเนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่มีหลังคาคลุม ดังนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่อง ฝนหรือหิมะ ท่านสามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก SAPPORO TOKYU REI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (หรือ BENTO SET กรณีห้องอาหารยังไม่เปิดให้บริการ) (13)
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
10.00 น. เหิรฟ้าสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดย สายการบินไทย (THAI AIRWAYS) เที่ยวบินที่ TG671
15.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
113/4 ถนน มหาราช กระบี่ใหญ่, เมือง, กระบี่ 81000